ที่เที่ยว นครพนม


545649_271722922923776_1273438957_n
หอสมุดแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ จังหวัดนครพนม
ภาพจาก : คุณเจษฎาภรณ์ บัวสาย                 เมื่อปี พุทธศักราช ๒๕๓๓ พลเอก มานะ รัตนโกเศศ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดนครพนม และดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการในสมัยนั้น ให้การสนับสนุนที่จะจัดตั้งหอสมุดแห่งชาติสาขาขึ้นที่จังหวัดนครพนม เพื่อให้เป็นศูนย์รวมแห่งการเรียนรู้ ที่จะเอื้อประโยชน์ในการศึกษาค้นคว้าแก่ นักเรียน นักศึกษา และประชาชนในจังหวัดนครพนม และจังหวัดใกล้เคียง โดยการเข้าร่วมเป็นกิจกรรมหนึ่งในโครงการที่รัฐบาลจัดขึ้นน้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวายเป็นราชสักการะเพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๕ รอบ (๑๒ สิงหาคม ๒๕๓๓) และได้รับพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้ใช้ชื่อว่า “หอสมุดแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ นครพนม” เนื่องจากไม่มีงบประมาณในการก่อสร้างอาคารใหม่ และอาคารศาลากลางจังหวัดนครพนมหลังเก่าถูกทิ้งไว้ โดยไม่ได้ใช้ประโยชน์มาช้านาน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ และจังหวัดนครพนมจึงเห็นควรให้ดำเนินการปรับปรุงซ่อมแซมเพื่อใช้เป็นอาคารหอสมุดแห่งชาติฯ และเริ่มเปิดบริการในเดือนมิถุนายน ๒๕๓๗ พ.ศ. ๒๕๔๐ อาคารหอสมุดแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ นครพนม ได้รับการคัดเลือกจากคณะกรรมาธิการอนุรักษ์ศิลปะสถาปัตยกรรมให้เป็นอาคารอนุรักษ์ดีเด่นประจำปี พ.ศ.๒๕๔๐ ซึ่งนับเป็นเกียรติประวัติที่น่าภาคภูมิใจอย่างยิ่ง ที่มา : http://www.nlt.go.th/np/new_page_1.htm &nbsp
พระติ้ว พระเทียม นครพนม
พระติ๋ว – พระเทียม วัดโอกาส(วัดศรีบัวบาน) อำเภอเมือง จังหวัดนครพนม
พระติ้ว – พระเทียม พระพุทธรูปปางมารวิชัยแกะสลักด้วยไม้ติ้ว ลงรักปิดทอง สร้างเมื่อพุทธศักราช ๑๓๒๘ สมัยศรีโคตรบูร “พระเจ้าศรีโครตบูรหลวง” รับสั่งให้นายช่างสร้างเรือ นายช่างได้ไปหาไม้หนอนมา จากดงติ้วเพื่อหนุน ท้องเรือ ขณะชักลากเรือ นั้นมีไม้ท่อนหนึ่งกระเด็นออกมาไม่ยอมให้เรือทับ เป็นพระพุทธรูปไม้แกะสลักปางมารวิชัย ขนาดหน้าตักกว้า ๓๙ ซม. สูง ๖๐ ซม. สันนิษฐานว่าสร้างในสมัยอาณาจักรศรีโคตรบูร ปัจจุบันประดิษฐาน ณ บุษบกภายในอุโบสถ สำหรับพระเจ้าติ้วนั้นเจ้าผู้ครองนครศรีโคตรบูรอัญเชิญไปประดิษฐานที่วัดศรีบัวบาน พระครูกับยาพจน์ได้บันทึกประวัติวัดศรีบัวบาน ไว้ในหนังสือที่ระลึกงานนมัสการพระติ้ว วัดโอกาส ในระหว่างวันที่ ๑ – ๓ มกราคม พ.ศ. ๒๔๙๘ ว่า สมัยหนึ่งเจ้าผู้ครองนครศรีโคตรบูรมีความประสงค์จะมีเรือแข่งหลวงสักลำหนึ่ง จึงมีรับสั่งให้ราษฎรบ้านตอเฮือ (ปัจจุบันอยู่ที่บ้านอ่างคำ ตำบลนาทราย อำเภอเมือง นครพนม) เข้าป่าไปตัดไม้ เพื่อที่จะทำเรือแข่งโดยกำหนดว่าต้องเป็นไม้แคน (ไม้ตะเคียน) เพราะถือว่า ต้นตะเคียนแต่ละต้นมีนางไม้ที่มีอิทธิฤทธิ์สิงสถิตอยู่ ถ้าฝีพายทุกคนให้การเคารพกราบไหว้นางไม้หรือแม่ย่านางจะเป็นผู้บันดาลความ มีชัยในการแข่งขันทุกครั้ง สมัยก่อนเมื่อจะตัดต้นตะเคียนต้องมีพิธีกรรมเซ่นไหว้เป็นการขอขมาบอกกล่าวกับแม่ย่านาง เพื่อแสดงความประสงค์ในการนำไม้ ไปใช้งานอย่างถูกต้อง กล่าวกันว่า ถ้าเป็นต้นตะเคียนที่มีฤทธิ์แรง เวลาเอาขวานไปพิงที่ต้นไม้ขวานยังกระเด็นไปเลยก็มี ภายหลังที่ชาวบ้านอ่างคำจัดการล้มไม้ลงได้แล้ว ได้ช่วยกันเอาเครื่องมือตัด เลาะกิ่งก้านออกและวัดความยาวให้ได้ ๒๐ ว่า ส่วนที่ เหลือต้องตัดทิ้งออกให้หมด เมื่อจัดการเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็รอเวลาชักลากขอนไม้ตะเคียนเข้าเมือง เพื่อให้ช่างถาก เหลา ขุด แต่งเป็นเรือแข่งให้เสร็จสมบูรณ์ [&hellip
เจดีย์พระธาุตุอาจารย์วัง2
เจดีย์พระธาุตุอาจารย์วัง
เจดีย์พระธาุตุอาจารย์วัง   ตั้งอยู่บนยอดเขาภูลังกาใต้  ถัดจากเจดีย์กองข้าวศรีบุญเนาว์ทางด้านตะวันตกเฉียงใต้  เป็นเจดีย์ขนาดเล็กใช้บรรจุพระธาตุของหลวงปู่วัง เกจิชื่อดังเมือประมาณ 50 ปีที่แล้ว  ตั้งอยู่บนลานหินทรายขนาดใหญ่ ระดับความสูงประมาณ 545 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง อยู่ใกล้กับหน้าผาใจขาด  ซึ่งเป็นหน้าผาที่สูงชันมาก  บริเวณรอบๆมีก้อนหินรูปทรงแปลกๆ  อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานภูลังกาประมาณ 7 กิโลเมตร  การเดินทางสามารถเดินผ่านไปในเส้นทางของเจดีย์กองข้าวศรีบุญเนาว์ ที่มา : http://banphaengnakhonphanom.blogspot.com/2012/01/blog-post_28.html
เจดีย์กองข้าวศรีบุญเนาว์ 2
เจดีย์กองข้าวศรีบุญเนาว์ อำเภอบ้านแพง จังหวัดนครพนม
เจดีย์กองข้าวศรีบุญเนาว์  หรือ พระธาตุภูลังกา       เป็นเจดีย์ที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้าที่อัญเชิญมาจากประเทศเนปาลเมื่อปีพุทธศักราช 2543  ตั้งอยู่บนลานหินซึ่งเป็นจุดสูงสุดของภูลังกา ระดับความสูง 563  เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง  องค์ของเจดีย์มีลักษณะคล้ายกองข้าว เป็นเจดีย์สีทอง เด่นเป็นสง่าบนยอดเขาภูลังกากลาง  เจดีย์กองข้าวศรีบุญเนาว์อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติภูลังกาประมาณ  4 กิโลเมตร  มีจุดชมวิว สามารถมองเห็นทิวทัศน์ที่สวยงามทั้งในฝั่งประเทศไทย และสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว     การเดินทางขึ้นสู่เจดีย์กองข้าวศรีบุญเนาว์ หรือ พระธาตุภูลังกา เริ่มต้นเดินทางจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติภูลังกา หรือ อีกฝั่งของอุทยานเดินทางจากซึ่งจะมีทางเดินเป็นลักษณะขั้นบันไดปูน เจดีย์กองข้าวศรีบุญเนาว์   ที่มา : http://banphaengnakhonphanom.blogspot.com/2012/01/blog-post_28.html
aq_mekong081
สถานที่จัดแสดงโลกของปลาแม่น้ำโขง
สถานที่จัดแสดงโลกของปลาแม่น้ำโขง : นครพนม      Mekong Underwater World ประวัติความเป็นมา อ่างเก็บน้ำหนองญาติ มีเนื้อที่ประมาณ 2,500 ไร่ เป็นแหล่งน้ำที่ติดกับ เขตเทศบาลเมืองนครพนม เป็นสถานที่ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ ได้เสด็จปฏิบัติภารกิจเมื่อปี พ.ศ.2505 รวมทั้งเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจของประชาชนโดยทั่วไป และจังหวัดนครพนมมีแม่น้ำที่สำคัญคือ แม่น้ำโขง ลำน้ำก่ำ แม่น้ำสงคราม จึงทำให้จังหวัดนครพนม มีสัตว์น้ำมากมาย หลายชนิดและกลายเป็นแหล่งน้ำที่ สำคัญในการขยายพันธุ์สัตว์น้ำ รวมทั้งเป็นแหล่ง รวมสัตว์น้ำและปลาหลายชนิดทั้ง ชนิดที่หายากและใกล้จะสูญพันธุ์ในประเทศไทย ด้วยดำริของ ฯพณฯ พลเอก ชวลิต ยงใจยุทธ นายกรัฐมนตรีคนที่ 22 พิจารณาเห็นสมควรที่จะจัดตั้งสถานที่จัดแสดงโลกของปลาแม่น้ำโขง ขึ้นที่บริเวณอ่างเก็บน้ำหนองญาติ เพื่อรวบรวม พันธุ์สัตว์น้ำที่อยู่ในแม่น้ำโขง ลำน้ำก่ำ แม่น้ำสงคราม ไว้เพื่อแสดงให้นักเรียน นักศึกษา นักท่องเที่ยว และผู้ที่สนใจได้ชมและศึกษาหาความรู้ เทศบาลเมืองนครพนม โดยนายพิศิษฐ์ ปิติพัฒน์ นายกเทศมนตรี เมืองนครพนม พร้อมคณะผู้บริหารเทศบาลเมืองนครพนม โดยการสนับสนุนจาก องค์การบริหาร ส่วนตำบลหนองญาติ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม และ นายชวลิต วิชยสทธิ์ อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดนครพนม จึงได้ดำเนินการจัดตั้ง สถานที่จัดแสดงโลกของปลาแม่น้ำโขง ขึ้นมา แบ่งส่วนออกเป็น สถานที่จัดแสดงพันธุ์ปลาน้ำจืดของลุ่มแม่น้ำโขง โดยจัดแสดงพันธุ์ปลาแม่น้ำโขงทั่วไป และชนิดที่หายาก และใกล้สูญพันธุ์ [&hellip
พระธาตุพนม
พระธาตุพนม อำเภอธาตุพนม
พระธาตุพนม ประดิษฐาน ณ วัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร ผลจากการขุดค้นทางโบราณคดีลงความเห็นว่าพระธาตุพนมสร้างขึ้นระหว่าง พ.ศ. 1200–1400 ตามตำนานกล่าวว่าผู้สร้างคือ พระมหากัสสปะ พระอรหันต์ 500 องค์ และท้าวพระยาเมืองต่าง ๆ ภายในองค์พระธาตุบรรจุพระอุรังคธาตุของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าไว้ ลักษณะของสถาปัตยกรรมมีแหล่งที่มาที่เดียวกันกับปราสาทของขอม และได้ทำการบูรณะเรื่อยมา ในปี พ.ศ. 2485 ได้รับการยกฐานะเป็นพระอารามหลวงชั้นเอกขึ้นเป็น “วรมหาวิหาร” พระธาตุพนมไม่เพียงแต่เป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวนครพนมเท่านั้น พระธาตุพนมยังเป็นที่เคารพของชาวไทยภาคอื่น ๆ และชาวลาวอีกด้วย ว่ากันว่าถ้าใครได้มานมัสการพระธาตุครบ 7 ครั้ง จะถือว่าเป็น “ลูกพระธาตุ” เป็นสิริมงคลแก่ชีวิตและจะมีความเจริญรุ่งเรือง หรือแม้แต่การได้มากราบพระธาตุพนม 1 ครั้ง ก็ถือเป็นมงคลแก่ชีวิตแล้ว ในวันที่ 11 สิงหาคม 2518 เวลา 19.38 น. พระธาตุพนมได้ล้มทลายลงทั้งองค์ เนื่องจากความเก่าแก่ขององค์พระธาตุพนมและประจวบกับระหว่างนั้นฝนตกพายุพัดแรงติดต่อกันมาหลายวัน ประชาชนทั้งประเทศได้ร่วมบริจาคทุนทรัพย์และรัฐบาลได้ก่อสร้างองค์พระธาตุขึ้นใหม่ตามแบบเดิม การก่อสร้างนี้เสร็จสิ้นเมื่อวันที่ 23 มีนาคม 2522 นอกจากพระบรมสารีริกธาตุที่บรรจุในองค์พระธาตุแล้ว ยังมีของมีค่ามากมายนับหมื่นชิ้น โดยเฉพาะฉัตรทองคำบนยอดพระธาตุเป็นฉัตรทองคำที่มีน้ำหนักถึง 110 กิโลกัม ปัจจุบันองค์ พระธาตุมีฐานกว้างด้านละ 12.33 เมตร สูง 53.60 เมตร เป็นเจดีย์ทรงสี่เหลี่ยมสูงแลดูสง่างาม งานนมัสการองค์พระธาตุเริ่มตั้งแต่วันขึ้น 10 ค่ำ เดือน 3 ถึงวันแรม 1 ค่ำ [&hellip
น้ำตกตาดโพธิ์
น้ำตกตาดโพธิ์ อำเภอบ้านแพง
น้ำตกตาดโพธิ์ มีกำเนิดจากเทือกเขาภูลังกา น้ำตกมีลักษณะสวยงามไม่น้อยกว่าน้ำตกตาดขาม เป็นน้ำตกที่ไหลเป็นชั้นจำนวน 4 ชั้น แต่ละชั้นสูงไม่น้อยกว่า 10 เมตร ชั้นที่ 2 สูงถึง 30 เมตร การเดินทาง ใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 212 จากนครพนมแล้วเลี้ยวซ้ายบริเวณกิโลเมตรที่ 214 เข้าไปประมาณ 3 กิโลเมตร ห่างจากน้ำตกตาดขาม ประมาณ 4 กิโลเมตร ทางอุทยานฯ มี เส้นทางศึกษาธรรมชาติ ภูลังกา 3 เส้นทาง ได้แก่ เส้นทางแรก เส้นทางสายน้ำตกตาดโพธิ์-ถ้ำยา ระยะทาง 1.5 กิโลเมตร ใช้ระยะเวลาเดินทางประมาณ 1.30 ชั่วโมง เส้นทางที่สอง เส้นทางสายน้ำตกตาดโพธิ์-ผางอย ระยะทาง 1.8 กิโลเมตร ใช้ระยะเวลาเดินทางประมาณ 1.30-2.00 ชั่วโมง จุดเด่นของเส้นนี้คือ บนผางอย สามารถชมวิวของพื้นที่อำเภอบ้านแพง และสายน้ำโขงได้ และ เส้นทางที่สาม เส้นน้ำตกตาดโพธิ์-เจดีย์กองข้าวศรีบุญเนาว์ ใช้ระยะเวลา 2 วัน 1 คืน เส้นนี้นักท่องเที่ยวควรเตรียมเต็นท์และเครื่องนอนมาด้วย ส่วนอาหารสามารถที่จะตกลงกับเจ้าหน้าที่นำทางเพื่อที่จะเตรียมอาหารไว้ให้ จุดเด่นของเส้นนี้คือจะได้ชมดอกไม้ป่า กล้วยไม้ป่า ผีเสื้อ และนกหลายชนิด บนยอดภูลังกายังมี เจดีย์กองข้าวศรีบุญเนาว์ มีลักษณะเป็นลานหินคล้ายกองข้าวนำมากองไว้ ซึ่งเป็นจุดสูงสุดของภูลังกาและเป็นการพิชิตยอดภูลังกาอีกด้วย [&hellip
น้ำตกตาดขาม
น้ำตกตาดขาม
เป็นน้ำตกที่ไหลเป็นชั้น ๆ จำนวน 4 ชั้น เฉพาะชั้นสุดท้ายจะมีแอ่งน้ำขังตลอดปี สภาพโดยรอบร่มรื่น และมีลานหินเล็ก ๆ เหมาะสำหรับพักผ่อน การเดินทาง รถยนต์ จากตัวเมืองนครพนมใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 212 เส้นนครพนม-บ้านแพง ระยะทางประมาณ 105 กิโลเมตร และเลี้ยวซ้ายบริเวณกิโลเมตรที่ 220 ห่างจากตัวอำเภอบ้านแพงประมาณ 6 กิโลเมตร รถโดยสารประจำทาง มีรถออกจากสถานีขนส่งหมอชิต 2 ถนนกำแพงเพชร สายกรุงเทพฯ-บ้านแพง มาลงที่ตัวอำเภอบ้านแพงแล้วนั่งรถมอเตอร์ไซต์รับจ้างมาที่อุทยานฯ ภูลังกา ขอขอบพระคุณข้อมูล จาก : http://www.nakhonphanom.go.th
อุทยานแห่งชาติภูลังกา
อุทยานแห่งชาติภูลังกา อำเภอบ้านแพง
อุทยานแห่งชาติภูลังกา                 มีพื้นที่ประมาณ 31,250 ไร่ หรือประมาณ 50 ตารางกิโลเมตร ครอบคลุมพื้นที่อำเภอบ้านแพง จังหวัด นครพนมและอำเภอเซกา จังหวัดหนองคาย สภาพป่าโดยทั่วไปเป็นป่าดิบเขา ป่าดงดิบ ป่าเบญจพรรณ และป่าแดงที่สมบูรณ์ มีสัตว์ป่าชุกชุม เป็นต้นกำเนิดของลำห้วยหลากสาย และมีจุดเด่นทางธรรมชาติ เช่น หน้าผา ถ้ำ น้ำตก อยู่หลายแห่ง ซึ่งมีสภาพป่าที่อุดมสมบูรณ์เป็นแหล่งต้นน้ำลำธารมีสัตว์ป่าหลายชนิดมีแหล่ง ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สวยงาม และยังมีความหลากหลายทางชีวภาพและสิ่งแวดล้อม ลักษณะภูมิประเทศ มีลักษณะเป็นภูเขา ทับซ้อนกัน 3 ลูก ทอดยาวตามแนวทิศเหนือกับทิศใต้และสลับด้วยเทือกเขาขนาดเล็กหลายลูกสลับซับ ซ้อนกันพร้อมทั้งทอดยาวตามแนวลำน้ำโขง มีความสูงจากระดับน้ำทะเล ที่จุดสูงสุดประมาณ 563 เมตร เทือกเขาเหล่านี้เป็นต้นกำเนิดของลำห้วยหลายสายที่เกื้อกูลผลประโยชน์ให้ ราษฎรในพื้นที่รอบๆเขตอุทยานฯภูลังกา ได้ทำการเกษตรกรรมและไหลลงสู่แม่น้ำโขง ที่อำเภอบ้านแพง จังหวัดนครพนมมีอาณาเขตดังต่อไปนี้ ลักษณะภูมิอากาศ ในพื้นที่มีสภาพภูมิอากาศ โดยทั่วๆไปแล้วจะมีสภาพอากาศใกล้เคียงกับบริเวณอื่นๆของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ส่วนสภาพอากาศบนยอดเขาจะมีลักษณะเป็นหิน ฤดูหนาวจะมีอากาศหนาวจัด ประมาณ 0-5 องศาเซลเซียส โดยอุณหภูมิเฉลี่ยตลอดปีประมาณ 25-36 องศาเซลเซียส ฤดูฝนมีปริมาณน้ำมาก ประมาณ 1,860 มิลลิเมตรต่อปี พันธุ์ไม้และสัตว์ป่า พรรณไม้ ประกอบด้วยดอกไม้ป่า และดอกไม้ป่าที่มีอยู่โดยทั่วไป เฉพาะกล้วยไม้ป่า รองเท้านารี เคยมีการกว้านซื้อเพื่อนำส่งนอกประเทศมาแล้ว จนเกือบจะสูญพันธุ์ เท่าที่พบในปัจจุบันส่วนมากจะเป็นกล้วยไม้ตระกูลหวายและแดงอุบล นอกจากนั้นภูลังกายังเป็นแหล่งสมุนไพรต่างๆ และว่านนานาชนิด สัตว์ป่า ภูลังกาในปัจจุบันเท่าที่พบและได้ข้อมูลจากชาวบ้าน ปรากฏว่ายังมีสัตว์ประเภทเลี้ยงลูกด้วยนม เช่น หมูป่า ลิง อีเห็น เก้ง [&hellip
prabang
พระบาง วัดไตรภูมิ อำเภอท่าอุเทน
เอ่ยถึง  พระบาง  ใคร ๆ ก็คงนึกถึงพระพุทธรูปสำคัญคู่บ้านคู่เมืองของลาว  ที่ประดิษฐานในเมืองหลวงพระบางในปัจจุบัน  เพราะพระบางองค์นั้นมีประวัติยาวนานเกี่ยวข้องกับทั้งราชอาณาจักรกัมพูชา  ลาว  และสยาม  ซึ่งตามตำนานเล่าว่าสร้างขึ้นในลังกาทวีป  หลังจากพระพุทธองค์ดับขันธ์ปรินิพานไปแล้ว  ๔๖๓  ปี  และอยู่ลังกาทวีปนานถึง  ๙๖๓  ปี  ก่อนมีการอัญเชิญมาประดิษฐาน ณ กรุงอินทปัตถนคร (เขมร)  ครั้นถึงสมัยพระเจ้าฟ้างุ้มแหล่งหล้าธรณี แห่งนครเชียงทอง(หลวงพระบาง)  จึงได้อัญเชิญแห่แหนมาไว้ในลาว ณ เมืองเวียงคำก่อน  และต่อมาในสมัยพระเจ้าวิชุลราชจึงได้อัญเชิญพระบางไปประดิษฐาน ณ เมืองหลวงเชียงทองล้านช้างร่มขาว  เมืองนั้นจึงได้ชื่อเมืองหลวงพระบางสืบมา ในสมัยพระเจ้าไชยเชษฐาธิราชพระองค์ได้ย้ายเมืองหลวงของราชอาณาจักรล้านช้างลงมายังนครเวียงจันทน์ในปี พ.ศ.๒๑๐๓ พระองค์ได้อัญเชิญพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์นี้ลงมาสถิต ณ กรุงเวียงจันทน์ด้วย  รวมเวลา พระบางอยู่ในเวียงคำ ๑๔๓ ปี  อยู่ในหลวงพระบาง ๒๐๒ ปี จึงมาสถิตในเวียงจันทน์ดังกล่าว ในปี ๒๓๒๒  (อ้างอิงตาม  ประวัติพระบาง เขียนโดย  จันทะพอน  วันนะจิด) เกิดสงครามกับสยาม(สมัยกรุงธนบุรี)  พระบาง  พร้อมพระแก้วมรกต  จึงถูกอัญเชิญไปสยาม(ไทย)ประดิษฐานไว้ที่กรุงธนบุรี  จนถึงปี พ.ศ. ๒๓๒๕ พระเจ้านันทเสนจึงได้ขอพระบางคืนสู่ลาว  สถิต ณ เวียงจันทน์อีกครั้งหนึ่ง  ได้ ๔๕ ปีก็ถูกแย่งชิงกลับไปไว้ในกรุงเทพฯของสยามอีกครั้งหนึ่ง  และได้กลับมายังลาวอีกในสมัยของ  พระเจ้าจันทราช ปกครองหลวงพระบางซึ่งตรงกับสมัยรัชกาลที่ ๔ แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ได้ทรงมีพระราชานุญาตให้อัญเชิญพระบางกลับสู่ลาว  โดยออกจากกรุงเทพแล้วขึ้นไป [&hellip
pratat2
พระธาตุท่าอุเทน
พระธาตุท่าอุเทน ที่ตั้ง : วัดพระธาตุท่าอุเทน ตำบลท่าอุเทน อำเภอท่าอุเทน จังหวัดนครพนม ประวัติ : ตามประวัติที่จารึกไว้ที่กำแพงพระธาตุกล่าว ท่านอาจารย์สีทัตถ์ ได้เป็นหัวหน้า ชักชวนพระภิกษุสงฆ์และชาวบ้านผู้มีจิตศรัทธาร่วมกัน ก่อสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2454ใช้เวลาทั้งสิ้น 6 ปีจึงแล้วเสร็จในปี พ.ศ.2459 หลักฐาน : พระธาตุท่าอุเทนมีลักษณะเป็นเจดีก่ออิฐถือปูนรูปสี่เหลี่ยม ซึ่งจำลองมาจากพระธาตุพนม แต่มีขนาดเล็กและสูงกว่าพระธาตุพนม บริเวณฐานและชั้นเรือน ธาตุมีลายปูนปั้นงดงาม ภายในองค์พระธาตุมี 2ชั้น ชั้นแรกก่อเป็นอุโมงค์บรรจุพระพุทธสารีริกธาตุ ซึ่งท่านอาจารย์สีทัตถ์อัญเชิญมาจากเมืองย่างกุ่ง ประเทศพม่า รวมทั้งมีพระพุทธรูปและของมีค่าต่างๆที่ผู้มีจิตศรัทธาได้นำมาบรรจุไว้ด้วย ขั้น 2 ก่อครอบอุโมงค์ สูงประมาณ 5 วา ถัดมาเป็นพระธาตุองค์นอกในปี พ.ศ. 2540 ส่วนซุ้มประตูฐานชั้นล่างขององค์พระธาตุด้านทิศใต้ได้พังทลายลง กรมศิลปากรจึงได้ทำการบูรณะขึ้นใหม่จนแล้วเสร็จในปี พ.ศ. 2541 พร้อมทั้งได้ทำการเสริมคานคอนกรีตภายใน เพื่อทำให้เกิดความมั่นคงเป็นการป้องกันองค์พระธาตุพังทลายด้วย อายุ :  สร้างขึ้นเมื่อราว พ.ศ. 2454 - พ.ศ. 2459 พระธาตุท่าอุเทน อยู่บ้านท่าอุเทน ใกล้กับที่ว่าการอำเภอท่าอุเทน องค์พระธาตุก่ออิฐถือปูนเป็นผังรูปสี่เหลี่ยมคล้ายพระธาตุพนม สร้างเป็น 3 ชั้น ชั้นแรกเป็นอุโมงค์บรรจุของมีค่าต่าง ๆ ชั้นที่ 2 สร้างครอบอุโมงค์ ชั้นที่ 3 คือเจดีย์องค์ใหญ่ สูงประมาณ 15 เมตร พระอาจารย์สีทัตถ์เป็นผู้สร้างเมื่อปี พ.ศ. 2454 และจะมีงานนมัสการพระธาตุในวันขึ้น 13 ค่ำ ถึงแรม 1 ค่ำ เดือน 4 ของทุกปี ขอขอบพระคุณข้อมูล จาก : http://www.utpzone.com
บ้านนาจอก-บ้านลุงโฮ
หมู่บ้านมิตรภาพไทย – เวียดนาม หรือ บ้านนาจอก (บ้านท่านโฮจิมินห์)
                เป็นหมู่บ้านเก่าแก่ที่อดีตประธานาธิบดีสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม นายโฮจิมินห์ได้เคยเข้ามาพึ่งพระบรมโพธิสมภารพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว แห่งราชอาณาจักรไทย เพื่อกอบกู้เอกราชของวียดนาม ระหว่างปี พ.ศ. 2467–2474 ผู้สนใจเข้าชมสามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดได้ที่ โทร. 0 4252 2430 ที่หมู่บ้านนี้จะปลูกต้นไม้รอบบ้านอย่างร่มรื่น เช่น ต้นหมาก พลู กล้วย และชา นอกจากนี้บริเวณริมถนนยังมีร้านก๋วยเตี๋ยวและอาหารเวียดนามขายอีกด้วย การเดินทาง ตามทางหลวงหมายเลข 22 เส้นนครพนม-สกลนคร บริเวณกิโลเมตรที่ 237-238 ภาพจาก : http://www.thaiweekender.com
หาดทรายทองศรีโคตรบูร
หาดทรายทองศรีโคตรบูร
เป็นหาดทรายน้ำจืดที่สวยงามมากแห่งหนึ่งในภาคอีสาน ในฤดูแล้ง (ราวเดือนกุมภาพันธ์-พฤษภาคม) หาดทรายจะยื่นออกไปกลางลำน้ำโขง หาดทรายนี้จะอยู่ตรงข้ามกับที่ทำการแขวงคำม่วน ประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว เหมาะสำหรับเป็นที่พักผ่อนหย่อนใจและชมความงามของธรรมชาติ ขอขอบพระคุณข้อมูล จาก : http://www.nakhonphanom.go.th
เขื่อนหน้าเมืองนครพนม
เขื่อนหน้าเมืองนครพนม
 เป็นสถานที่พักผ่อนของชาวเมืองนครพนม และเป็นจุดชมทิวทัศน์ พระอาทิตย์ขึ้นและตกที่สวยงามริมแม่น้ำโขง บริเวณเขื่อนหน้าเมืองนครพนมนี้อยู่ตรงข้ามกับเมืองท่าแขก แขวงคำม่วน ประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ขอขอบพระคุณข้อมูล จาก : http://www.nakhonphanom.go.th
สวนหลวง ร.9
สวนหลวง ร.9
จังหวัดนครพนม ตั้งอยู่ในเขตเทศบาลเมืองนครพนมทางด้านทิศเหนือ สร้างขึ้นเพื่อถวายเป็นพระราชสักการะ เนื่องในวโรกาสเฉลิมพระชนมพรรษาครบ 5 รอบ เป็นสวนสาธารณะที่สร้างขึ้นเพื่อเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจของประชาชน ขอขอบพระคุณข้อมูล จาก : http://www.nakhonphanom.go.th

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น